วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2551

"อนุมูลอิสระ" คือ อะไร ?

มารู้จัก “อนุมูลอิสระ” ที่เรียก ๆ กัน มันเป็นอย่างไร? และเดลี่โปรดิวส์24 คืออะไร?

เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนเดี๋ยวหนาว ได้เจอคนไม่สบายบ่อย ๆ ดูแล้วคงต้องระมัดระวังสุขภาพกันมากขึ้นนะคะ หลายคนชอบถามว่า มีวิธีป้องกันหรือดูแลตนเองอย่างไรบ้าง เลยอยากให้รู้จักเรื่องของสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีประโยชน์ทำให้ร่างกายทำหน้าที่หรือป้องกันตนเองได้ดีขึ้นแล้วทำให้อะไรบางอย่างที่ผิดปกติไปดีขึ้นเร็ว โดยเฉพาะการซ่อมแซมตนเองของร่างกาย
อนุมูลอิสระ คืออะไร?
ในกระบวนการเผาผลาญสารอาหารของร่างกายซึ่งมี ความจำเป็นต้องอาศัยออกซิเจนช่วย แต่จะเกิดออกซิเจนที่มีประจุลบ (O2) ซึ่งก็คืออนุมูลอิสระ (free radicals) สารตัวนี้ยังสามารถไปรวมตัวกับสารบางชนิดในร่างกายเรา แล้วก่อให้เกิดเป็นสารพิษที่ทำลายเนื้อเยื่อ หรืออาจไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางพันธุกรรมภายในเซลล์ ทำให้เซลล์ที่ปกติแปรสภาพไปเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุดอนุมูลอิสระ เป็นอนุภาคไม่คงตัว จึงทำปฏิกิริยากับโมเลกุลที่อยู่ติดกันได้อย่างรวดเร็ว เกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า “ออกซิเดชั่น” (Oxidation) ซึ่งอาจก่อผลกระทบที่อันตรายต่อร่างกายได้
อนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้อย่างไร? นอกจากเกิดจากกระบวนการเผาผลาญสารอาหารในร่างกายแล้ว ยังอาจเกิดจากการติดเชื้อทั้งจากแบคทีเรียและไวรัส การอักเสบชนิดไม่ทราบสาเหตุ เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์ , จากรังสี, สิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษ เช่น ควันเสียและเขม่าจากเครื่องยนต์, ควันบุหรี่, ยาฆ่าแมลง, การออกกำลังกายอย่างหักโหม

อนุมูลอิสระทำให้เกิดอะไรกับร่างกายบ้าง? เมื่ออนุมูลอิสระทำปฏิกิริยากับรหัสพันธุรกรรมดีเอ็นเอในนิวเคลียสของเซลล์ อาจทำให้เซลล์กลายพันธ์และกลายเป็นเซลล์มะเร็ง ถ้าเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับโคเลสเตอรอลในกระแสเลือด จะกระตุ้นให้เกิดไขมันสะสมในหลอดเลือด นำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดในสมองแตกหรือตีบได้ นอกจากนี้ อนุมูลอิสระยังมีส่วนทำให้เกิดต้อกระจก ภูมิต้านทานต่ำ โรคข้ออักเสบและแก่ก่อนวัย

บทบาทของสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระทำลายฤทธิ์ของอนุมูลอิสระ โดยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย นอกจากสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายสร้างเองแล้ว ในวิตามิน แร่ธาตุ และพฤกษาเคมี (PhytoChemical) ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ด้วย และช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ดีสีสัน ในผัก ผลไม้ กับสุขภาพ ไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient) หรือไฟโตเคมีคอล (Phytochemical) หรือเรียกว่าพฤษเคมี คือสารเคมีต่าง ๆ ที่มีอยู่ในผัก ผลไม้ เป็นสารที่ทำให้เกิด สี กลิ่น รส ในผัก ผลไม้ มีประโยชน์ต่อร่างกายในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีหลายชนิดและจะมีสีสันที่แตกต่างกันไป ลองมารู้จักพวกเขาอย่างง่าย ๆ ดูประโยชน์ที่จะได้รับกัน เช่นชนิดสีแดง ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันมะเร็งชนิดต่าง ๆ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ โรคปอด และโรคระบบทางเดินปัสสาวะ มีไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient): ไลโคพีน (Lycopene) เช่น มะเขือเทศ , แตงโม, เกรฟฟรุทสีชมพู (Pink Grapefruit)ชนิดสีม่วง ช่วยลดการจับตัวกันของลิ่มเลือด ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองอุดตัน ช่วยในการมองเห็น ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม มีไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient): แอนโธไซยานิน (Anthocyanins) เช่น องุ่น, บลูเบอรี่ ,สตอเบอร์รี่, หัวบีท, มะเขือม่วงชนิดสีส้ม ช่วยป้องกันผิวจากการทำลายของอนุมูลอิสระและช่วยซ่อมแซมดีเอ็นเอ (DNA) ช่วยในการมองเห็นตอนกลางคืน มีไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutient): แอลฟาและเบต้าแคโรทีน เช่น แครอท, มะม่วง, แคนตาลูป, มันเทศชนิดสีเหลืองส้ม ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยเซลล์ในร่างกายในการสื่อประสาท ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน มีไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient): Beta Cryptothanxin เช่น ส้ม, พีช, มะละกอชนิดสีเหลืองเขียว ช่วยลดความเสี่ยงโรคต้อกระจก ช่วยป้องกันหลอดเลือดหนาตัว เสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟัน มีไฟโตนิวตรียนท์ (Phytonutrient): Lutein, Zeaxanthine เช่น ผักขม , ข้าวโพด, อะโวคาโด , แตงฮันนีดิวชนิดสีเขียว ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็ง มีไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrient): ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane), ไอโซไซยาเนท (Isocyanate), อินโดล (Indoles) เช่น บรอคโคลี, กะหล่ำปลี, ผักกาดหอมฝรั่ง, บรัสเซลส์สเปราท์ชนิดสีเขียวขาว ช่วยป้องกันมะเร็ง มีไฟโตนิวเตรียนท์ (Phytonutrients): Quercetin, Kaempferol, Allicin เช่น กระเทียม, หอม, ซีเรอลี, ลูกแพร์ผักผลไม้หลายชนิดที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงโดยเฉพาะกลุ่มไฟโตนิวเตรียนท์ บางชนิดราคาสูง หาทานได้ไม่ง่ายหรือสะดวกนัก อยากจะทานให้ครบ ๆ คงต้องหาทานกัน เพื่อสุขภาพ

เดลี่โปรดิวส์ 24 คืออะไร?

คือ สารอาหารสกัดจากผลไม้ 12 ชนิด และผัก 12 ชนิดDailyProduce24 ผลิตภัณฑ์ที่มีสารอาหารที่มีค่าต้านอนุมูลอิสระสูง หรือค่า ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity) สูง กระบวนการเก็บเกี่ยวและกระบวนการผลิตที่ช่วยรักษาคุณค่าสารอาหารไว้ได้มากที่สุด (Flash Glancing Technology) ให้คุณค่าทางโภชนาการจากผักผลไม้ > 4 หน่วยบริโภค (ในหนึ่งวันเราควรได้รับเกิน 4 หน่วยบริโภค) บรรจุในแคปซูลที่ทำจากพืช (Soy based gelatin) เพราะเจลาตินทั่วไปผลิตจากสัตว์ซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้ได้
จาก Unicity Newsletter Oct 2007

อ้างอิงจา http://www.unicitythai.com/

ไม่มีความคิดเห็น: